บริษัทแปลเอกสารที่ดีที่สุด ติดอันดับ Top 3 ของ Top Best Brand
ศูนย์แปลภาษานั้นเป็นแหล่งรวมนักแปลมืออาชีพที่มีประสบการณ์ มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในภาษาต่าง ๆ โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีการบริการที่เป็นมืออาชีพกว่า จึงรับประกันได้เลยในระดับหนึ่งว่าเอกสารที่เราได้รับจะสามารถนำไปใช้ได้จริง ลดความเสี่ยงในการกลับมาแก้ไขเอกสารใหม่ ช่วยประหยัดเวลาและทำให้สะดวกสบายขึ้นอย่างมากค่ะ
แนวทางการเลือกศูนย์แปลภาษา สำหรับผู้ที่สงสัยว่าจะแปลเอกสารที่ไหนดี
เราได้รู้ความสำคัญและเหตุผลในการใช้บริการแปลภาษาจากศูนย์แปลภาษาไปแล้ว แต่จะเลือกแปลภาษาที่ไหนดีล่ะ ถึงจะมีความรวดเร็ว ได้งานคุณภาพ ไม่ทิ้งงาน และเอกสารถูกต้องแม่นยำ นำไปใช้งานได้จริง ลองนำแนวทางเหล่านี้ไปใช้พิจารณาเลือกนักแปลหรือศูนย์แปลภาษากันดูนะคะ
1. ประสบการณ์
ประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญมาก หากทางศูนย์แปลมีผลงาน มีประวัติการทำงานที่ตรงกับเอกสารหรือเนื้องานที่เราต้องการ ก็ย่อมทำให้เรามีความเชื่อถือและมั่นใจในการเลือกใช้บริการขึ้นมาอีกระดับ
2. ขอบเขตงานตรงกับที่เราต้องการ
ศูนย์แปลภาษาบางแห่งก็รับแปลเฉพาะเอกสารหรือข้อตกลงและสัญญาทั่วไป ส่วนบางแห่งอาจมีบริการแปลหนังสือ แปลบทคัดย่อ วิทยานิพนธ์ บางแห่งมีบริการรับรองเอกสารครบในที่เดียว ดังนั้นก่อนเลือกใช้บริการอย่าลืมสอบถามขอบเขตงานที่ตรงความต้องการของเราเสมอ
3. ราคาคุ้มค่ากับบริการ
เรื่องราคาไม่ใช่ว่าถูกแล้วจะดีเสมอไป แต่เราควรพิจารณาความสมเหตุสมผลของราคากับคุณภาพงานที่จะได้รับ รวมถึงการบริการที่เป็นมืออาชีพ มีระบบ และมีความรวดเร็วในการทำงานด้วย
4. ติดต่อสะดวก
บางครั้งการทำงานก็ต้องมีการติดต่อประสานงานเพื่อแก้ไข พูดคุยรายละเอียด หรือชี้แจงเนื้อหาเอกสารเพิ่มเติม ดังนั้นเลือกใช้บริการจากศูนย์แปลภาษาที่มีที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรืออีเมลที่สามารถติดต่อได้สะดวกจะดีที่สุด
5. การบริการรวดเร็ว มีรีวิวจากลูกค้าจริง
ทุกวันนี้โลกออนไลน์ทำให้เราสามารถเช็กประวัติการทำงานหรือการให้บริการจากศูนย์แปลภาษาไทยสะดวกมาก เพราะสามารถตรวจสอบจากรีวิวของลูกค้าที่เคยใช้บริการจริงได้เลยทันที ทำให้เราตัดสินใจในเบื้องต้นได้ว่าศูนย์แปลภาษาแห่งนี้มีคุณภาพตรงตามที่เราต้องการหรือไม่
แปลเอกสารที่ไหนดี ? ศูนย์แปลเอกสาร Wordsmakers สิคำตอบ
สำหรับคนที่กำลังสงสัยว่าจะเลือกแปลเอกสารที่ไหนดี บริษัทแปลเอกสารที่ดีที่สุด เพราะเดี๋ยวนี้สถาบันหลายแห่งก็รับแปลภาษาอังกฤษเหมือน ๆ กันหมด ลองมาดูเคล็ดลับการเลือกศูนย์แปลเอกสารกันได้เลย
1. ศูนย์แปลภาษาต้องมีนักแปลที่มีประสบการณ์
ถือเป็นข้อแรกที่ทั้งสำคัญและขาดไม่ได้ เพราะหากนักแปลขาดประสบการณ์ ความเข้าใจในงานแปลก็จะน้อยลง ส่งผลให้การเลือกคำศัพท์ สำนวน หรือการเรียบเรียงไม่สละสลวยเท่าที่ควร เพราะฉะนั้นถ้าอยากร็ว่าจะใช้บริการรับแปลเอกสารที่ไหนดี ก็ต้องอย่าลืมเลือกดูประสบการณ์ของผู้แปลประจำศูนย์แปลแห่งนั้นด้วย
2. มีผลงานจริงที่สามารถอ้างอิงได้
นอกจากจะตรวจสอบประสบการณ์ของผู้แปลแล้ว การใช้บริการรับแปลภาษาอังกฤษต้องดูประวัติผลงานหรือผลงานจริงที่ผู้แปลเคยทำมาก่อนในอดีตด้วย ยิ่งเป็นงานเอกสาร หนังสือ สัญญา ข้อกฎหมาย หรือเอกสารสำหรับขอวีซ่า หากมีตัวอย่างผลงานเก่าอ้างอิงก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจในการจ้างงานให้กับเราได้
3. มีความรู้และความเชี่ยวชาญในงานที่แปล
งานแปลภาษามีหลายประเภท ทั้งการแปลหนังสือ นิยาย นิทาน แบบเรียน เอกสารราชการ สัญญาทางกฎหมาย ไปจนถึงการแปลรูปภาพหรือข้อความอื่น ๆ เพราะฉะนั้นผู้รับแปลเอกสารภาษาอังกฤษจึงต้องมีความรู้และความเชี่ยวชาญในงานที่แปลด้วย เพื่อให้สามารถแปลชิ้นงานนั้นออกมาได้สละสลวย
4. เชื่อถือได้ไม่ทิ้งงาน
บ่อยครั้งที่เราพบปัญหาผู้แปลขาดประสบการณ์ ทิ้งงานกลางคันจนทำให้เสียทั้งเงินและเวลา เพราะฉะนั้นก่อนเลือกศูนย์แปลภาษาต้องอย่าลืมเช็กประวัติเหล่านี้ด้วย เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเราจะได้รับงานอย่างถูกต้องครบถ้วนตามกำหนด การทิ้งงานกลางคันนั้นทำให้เราเสียเงิน เสียเวลา แถมยังโดยรุมแปกลทุกวัน
5. บริการรับแปลเอกสารแบบครบวงจร
อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้หลายคนชื่นชอบก็ความการมีบริการแบบครบวงจร จ่ายเงิน แปล ดำเนินการ ครบทั้งหมดในที่เดียว เพราะฉะนั้นหากเป็นการรับแปลเอกสาร ก็ต้องดูด้วยว่าสถานที่ที่เราจะเลือกให้แปลนั้นมีบริการแบบครบวงจรหรือเปล่า เช่น การรับรองเอกสารกงสุล การรับรองโดยทนายความที่มีใบอนุญาตโยเฉพาะ การยื่นวีซ่า หรือนำเอกสารไปทำเวิร์คเพอร์มิท เป็นต้น